ENG KU NEWS

วันพฤหัสที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2566
ข่าวล่าสุด :
คณะครู-นักเรียน โรงเรียนเบญจมราชรังสฤษฎิ์ เยี่ยมชมคณะวิศวฯคณะวิศวฯ ม.เกษตรศาสตร์ ร่วมกับ SIT ประเทศญี่ปุ่น และ AIT จัดงาน global Project-Based Learning (gPBL-Thailand-2025)ศูนย์วิศวกรรมพลังงานและสิ่งแวดล้อม บางเขน ร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการ Carbon Neutral Workshopคณะวิศวฯ ร่วมในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ระหว่างกรุงเทพมหานครกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และพิธีเปิด โครงการ KU Innovation ครั้งที่ 5คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้รับใบประกาศเกียรติคุณสนับสนุนกิจกรรมลดก๊าซเรือนกระจกผู้บริหารคณะวิศวฯ นำนิสิตผู้เข้าร่วมการแข่งขัน Pitching Startup Thailand League 2025 เข้าพบผู้บริหารมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์คณะวิศวฯ-ศูนย์ AI Innovator KU จัดงาน AI Innovator Pitching Dayคณะครู-นักเรียน โรงเรียนเพชรพิทยาคม เยี่ยมชมคณะวิศวฯโครงการ IUP จัดพิธีปฐมนิเทศนิสิตต่างชาติคณะวิศวฯ มก. – WD ประเทศไทย จัดกิจกรรมการนำเสนอผลงาน ภายใต้โครงการ Advanced Technology Upskill Development Program for Smart Manufacturing 4.0

คณะวิศวกรรมศาสตร์ เปิดศูนย์ Climate Change Data Center

คณะวิศวกรรมศาสตร์ จัดพิธีเปิดศูนย์ข้อมูลการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change Data Center) ขึ้น เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2557 โดยมีรองศาสตราจารย์วุฒิชัย กปิลกาญจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงานและรับมอบเซิร์ฟเวอร์สมรรถนะสูงจาก Mr.Shuichi Ikeda หัวหน้าคณะผู้แทนองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA) ประจำประเทศไทย เพื่อใช้ในการเรียนการสอนและการวิจัยของคณะวิศวกรรมศาสตร์ มก. นอกจากนั้นยังมีรองศาสตราจารย์ ดร.ธัญญะ เกียรติวัฒน์ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ Prof.Dr.Taikan Oki, Tokyo University Chief Advisor of IMPAC-T  และอาจารย์นนทวัฒน์ จันทร์เจริญ ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมทั้งคณะผู้บริหาร คณาจารย์ ตลอดจนนักวิจัยในโครงการ IMPAC-T ร่วมในพิธีที่จัดขึ้น ณ อาคารบุญสม สุวชิรัตน์ คณะวิศวกรรมศาสตร์

ศูนย์ข้อมูลการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จัดตั้งขึ้นด้วยความร่วมมือระหว่างคณะวิศวกรรมศาสตร์ มก. กับโครงการวิจัย IMPAC-T (Integrated Study Project on Hydro-Meteorological Prediction and Adaption to Climate Change in Thailand) ภายใต้การสนับสนุนจากองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (Japan International Cooperation Agency Thailand Office: JICA)

ภายในศูนย์ข้อมูลฯ มีเซิร์ฟเวอร์สมรรถนะสูง (HPS)  ขนาดใหญ่และขนาดกลาง ประมาณ 20 เครื่อง ในการเก็บข้อมูลการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศไทย รวมทั้งระบบการทำนายปริมาณน้ำฝน ระบบการเตือนภัยน้ำท่วมและดินถล่ม และระบบสารสนทศอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยมีโครงการ IMPAC-T พัฒนาระบบคอมพิวเตอร์ประมวลผลแบบจำลองทางอุทกวิทยาและอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับน้ำมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2552 และสิ้นสุดโครงการในเดือนมีนาคม 2557 โดยได้รับงบประมาณสนับสนุนจาก JICA เป็นเงินจำนวนประมาณ 25 ล้านบาท

สรุป Outputs/Outcomes ที่สำคัญของโครงการวิจัย IMPAC-T

โครงการวิจัย IMPAC-T  มีโครงสร้างที่แตกต่างไปจากโครงการวิจัยอื่นโดยทั่วไป คือ นำนักวิจัยหรืออาจารย์ในมหาวิทยาลัยมาทำวิจัยร่วมกับเจ้าหน้าที่ของรัฐในหน่วยงานภาคปฎิบัติ    ทำให้หัวเรื่องการวิจัยมาจากงานหรือปัญหาจริงของหน่วยงานปฎิบัติและผลลัพธ์ที่ได้จากการวิจัยเกือบทั้งหมดสามารถนำไปสนับสนุนการทำงานจริงของผู้ปฎิบัติได้ทันทีอย่างเป็นรูปธรรม    ซึ่ง Outputs และ Outcomes  ที่สำคัญของโครงการวิจัย IMPAC-T  สรุปได้ดังนี้

 

1)  การติดตั้งสถานีตรวจวัดการแลกเปลี่ยนน้ำ พลังงาน และคาร์บอน ระหว่างระบบนิเวศและบรรยากาศในพื้นที่การเกษตร    

โครงการ IMPAC-T ได้ติดตั้งสถานีตรวจวัดการแลกเปลี่ยนน้ำ พลังงาน และ คาร์บอน หรือเรียกว่า ฟลักส์ (Flux) ระหว่างระบบนิเวศและบรรยากาศ   จำนวน 4 แห่ง   ในนาข้าว  ไร่อ้อย  ไร่มันสำปะหลัง และ ป่าไม้เขตร้อน ที่จังหวัดราชบุรี นครสวรรค์  ตาก  และ พะเยา ตามลำดับ    เพื่อให้สามารถทราบปริมาณการแลกเปลี่ยนมวลสารเหล่านี้ระหว่างพื้นผิวโลกของประเทศไทยซึ่งส่วนใหญ่เป็นพื้นที่การเกษตรกับชั้นบรรยากาศ   โดยสถานีวัดแต่ละแห่ง (Flux tower)  ติดตั้งอุปกรณ์วัดนับ 10 ชนิด  ที่สำคัญคือ อุปกรณ์วัดการปล่อย CO2  ซึ่งเป็นตัวสำคัญที่ทำให้เกิดแก๊สเรือนกระจก และนำไปสู่สภาวะโลกร้อน  หรือ Climate Change  โดย  มักกล่าวกันว่านาข้าวเป็นแหล่งที่มีอัตราการปล่อย CO2 ออกมาสู่บรรยากาศมากที่สุด

ข้อมูลจากทั้ง 4 สถานีถูกส่งผ่านทางระบบโทรมาตรมายัง   Climate Change Data Center แบบออนไลน์    นอกจากนั้นยังได้แลกเปลี่ยนข้อมูลกับเครือข่ายหน่วยงานวิจัยด้านฟลักซ์ทั่วโลก (Flux Pro)  ซึ่งสามารถดูรายละเอียดของข้อมูลได้จากทางเว็บไซด์  http://impact.eng.ku.ac.th  ข้อมูลและความรู้ที่ได้ เป็นประโยชน์ต่อการจัดการทรัพยากรน้ำ  การเพาะปลูก/ประเมินความต้องการน้ำ การตอบสนองของระบบนิเวศต่อการเปลี่ยนแปลง การพัฒนาเครื่องมือ/แบบจำลองเพื่อการจัดการการใช้ประโยชน์ที่ดิน และ การศึกษาผลของการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ

 

2)  การประมาณฝนตกโดยใช้ภาพถ่ายดาวเทียมและเรดาร์ (Rainfall Estimation by Sattelite and Radar)

โครงการ IMPAC-T ได้ศึกษาวิจัยเทคโนโลยีสมัยใหม่ในการพยากรณ์ฝนตก โดยใช้ดาวเทียมและเรดาร์ตรวจจับสภาพและอุณหภูมิของเมฆฝนพร้อมทั้งมีการพัฒนาแบบจำลองทางคณิตศาสตร์หรือโมเดลเพื่อคาดการณ์พื้นที่ฝนตกและปริมาณน้ำฝน ทั้งนี้อาศัยภาพถ่ายดาวเทียมจากสถานีรับสัญญาณดาวเทียมจุฬาภรณ์และเรดาร์ของกรมอุตุนิยมวิทยา      ผลที่ได้จึงสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่พยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยาได้เป็นอย่างดี    อันจะทำให้การพยากรณ์มีการตรวจสอบความถูกต้องตรงกันหลายแนวทางและมีความแม่นยำขึ้น

นอกจากนั้นยังนำผลที่ได้ไปใช้งานจริงกับภารกิจของสำนักงานฝนหลวงและการบินเพื่อการเกษตร เพื่อวิเคราะห์และตรวจสอบพื้นที่ทำการบินในการทำฝนหลวงอีกด้วย  รายละเอียดดูได้จาก http://dvbs.ee.ku.ac.th

แสดงความคิดเห็น

เกี่ยวกับเรา

ข่าวล่าสุด

ติดตามเราได้ที่