ENG KU NEWS

วันพุธที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2566
ข่าวล่าสุด :
อาจารย์-นิสิต ภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า เข้าเยี่ยมชมโรงไฟฟ้าพระนครเหนือคณะวิศวฯ จับมือ แกรนด์ไลน์ อินโนเวชั่น ร่วมมือทางวิชาการ-มอบทุนการศึกษานิสิตและทุนพัฒนาบุคลากรผู้บริหารคณะ-ผู้บริหารสมาคมนิสิตเก่าวิศวฯ มก. ร่วมกิจกรรม KAMP5: Mentor Orientation & Selection Day          คณะวิศวฯ ร่วมกับ บริษัท CRRC Qingdao Sifang Co., Ltd. สาธารณรัฐประชาชนจีน จัดงานฉลองครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–จีน และการสัมมนาพัฒนานวัตกรรมรถไฟความเร็วสูงไทย–จีนคณะวิศวฯ ร่วมงาน วันคล้ายวันสถาปนาบัณฑิตวิทยาลัย มก. ครบรอบปีที่ 59คณะวิศวฯ – คณะสังคมศาสตร์ คณะเทคนิคการสัตวแพทย์ มก. ร่วมจัด Workshop ครั้งที่ 2 KU Innovation Contest ครั้งที่ 5คณะวิศวกรรมศาสตร์ ร่วมงานนนทรีสีทองคณะวิศวฯ จัดงาน ดงตาลผูกพัน สายสัมพันธ์วันเกษียณ ประจำปี 2568คณะวิศวฯ ร่วมงานสถาปนาสำนักบริหารการศึกษา มก. ครบรอบปีที่ 33นิสิตวิศวกรรมไฟฟ้า ร่วมกิจกรรม เยี่ยมชมรัฐสภา 360 องศา เรียนรู้ระบบงานรัฐสภา กับประธานคณะ กมธ.

วิศวฯ มก. คิดค้นระบบตรวจลายม่านตาสำเร็จ

ในยุคที่เทคโนโลยีมีความทันสมัยเช่นทุกวันนี้ การเข้าถึงตัวบุคคล ทรัพย์สิน หรือแม้กระทั่งข้อมูลที่สำคัญต่างๆ ดูเป็นเรื่องที่ง่าย ดังนั้น การรักษาความปลอดภัยโดยการตรวจสอบบุคคลก่อนที่จะเข้าถึงสถานที่หรือข้อมูลที่สำคัญต่างๆ เหล่านี้ ย่อมเป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน   โดยจากเดิมที่เคยดูจาก รูปร่าง หน้าตา ลายเซ็นต์ การแสดงบัตรประจำตัว  แล้วพัฒนามาเป็นการตรวจสอบนิ้วมือด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ (scan นิ้วมือ)  การใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์  แต่ยังมีความปลอดภัยไม่เพียงพอ    ทีมวิจัยคณะวิศวฯ มก. จึงได้คิดค้นพัฒนาต้นแบบระบบตรวสอบลายม่านตาบุคคลอัตโนมัติ ที่เรียกว่าไบโอเมตริก (Biometric) ขึ้น   เนื่องจากลายม่านตาของมนุษย์มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่เปลี่ยนแปลงตามกาลเวลาและสภาพแวดล้อม ทำการปลอมแปลงได้ยากแม้แต่ฝาแฝดยังมีความแตกต่างกัน โดยได้รับทุนสนับสนุนจากศูนย์เทคโนโลยีอีเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC)

พ.ศ.2545 จนถึงปัจจุบัน โดยทำการพัฒนาทั้งในส่วนขั้นตอนวิธี (Algorithms) และส่วนฮาร์ดแวร์ของระบบ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่คิดค้นขึ้นใหม่ทั้งหมด แตกต่างจากวิธีของต่างชาติ ปัจจุบันงานวิจัยชิ้นนี้นำมาใช้ในห้องปฏิบัติการได้สำเร็จแล้ว พร้อมเปิดตัวในงานบนเส้นทางวิศวกรรมในต้นเดือนกุมภาพันธื ปี2549 ที่จะถึงนี้    ทีมวิจัย มก. ประกอบด้วย ผศ.ดร.วุฒิพงศ์  อารีกุล หัวหน้าโครงการ และ ผศ.ดร.สมหญิง ไทยนิมิต หัวหน้าทีมวิจัยด้านลายม่านตา ร่วมกับนิสิตปริญญาโท นายกิตติพล โหราพงษ์  นายพีรณัฏฐ์ ทูลแสงงาม และนายจิรยุทธ ศรีชลเพ็ชร์    ได้เริ่มคิดค้นขั้นตอนวิธีการตรวจสอบลายม่านตามาตั้งแต่ปี

นอกจากนี้ ทีมวิจัย มก. ยังสามารถพัฒนาระบบสแกนลายม่านตาจากกล้องถ่ายอัดวีดีทัศน์ (Camcorder) ที่สามารถทำงานในช่วงแสงอินฟราเรดได้และพัฒนาฮาร์ดแวร์ตรวจสอบระยะทางระหว่างใบหน้ากับกล้อง รวมถึงการพัฒนาซอฟท์แวร์ตรวจหาดวงตาและเก็บภาพดวงตาอัตโนมัติ  ผศ.ดร.วุฒิพงศ์ฯ หัวหน้าโครงการ กล่าวถึงงานวิจัยชิ้นนี้ ว่า “ การตรวจสอบลายม่านตาถือได้ว่าเป็นระบบที่มีความถูกต้องและแม่นยำที่สุด แต่ระบบตรวจสอบลายม่านตาในปัจจุบันมีราคาสูง จึงคิดค้นระบบที่มีประสิทธิภาพและราคาถูกลง โดยได้ค้นพบวิธีการดึงรายละเอียดทางกายภาพทางม่านตา ซึ่งเมื่อนำมาทำการเข้ารหัสและตรวจสอบความผิดพลาดกับฐานข้อมูลจำนวน 756 ภาพม่านตาของคน 108 คน ในหมวดของการระบุว่า ภาพม่านตาที่เข้ามาเป็นบุคคลใดในฐานข้อมูล ระบบสามารถระบุได้ถูกต้องทั้งหมด และเมื่อนำไปใช้ในการระบุว่า ภาพม่านตาที่เข้ามาเป็นบุคคลในฐานข้อมูลหรือไม่ ระบบมีความผิดพลาดอยู่ 0.22% ขณะนี้เวลาที่ใช้ในการลงทะเบียนม่านตาหนึ่งม่านตาไม่เกิน 2 วินาที และเวลาที่ใช้ในการเปรียบเทียบระหว่างรหัสม่านตา (1:1) เท่ากับ 17 มิลลิวินาที บนคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล Pentuim IV 2.4 GHz 512 Mbyte”

ในส่วนของการพัฒนาสู่ภาคอุตสาหกรรม ผศ.ดร.วุฒิพงศ์ฯ กล่าวว่า  “ต้องทำการพัฒนาในส่วนของเลนส์และกล้อง รวมทั้งพัฒนาระบบการจัดการข้อมูลให้มีความเหมาะสม กับงานแต่ละงานที่จะประยุกต์ใช้ ทิศทางการวิจัยจะมีลักษณะเป็นการพัฒนาปรับปรุงงานวิจัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ฮาร์ดแวร์สำคัญเป็นของคนไทยทั้งหมดและซอฟต์แวร์ ขั้นตอนวิธีต่างๆ มีความแม่นยำรวดเร็วสมบูรณ์ขึ้น”

ในอนาคต คนไทยจะมีระบบตรวจสอบบุคคลที่มีประสิทธิภาพไม่แพ้ต่างชาติ ซึ่งเกิดจากการคิดค้นและพัฒนาของทีมนักวิจัยคณะวิศวฯ มก. ………………….

 

แสดงความคิดเห็น

เกี่ยวกับเรา

ข่าวล่าสุด

ติดตามเราได้ที่