การท่าเรือว่าจ้างวิศวฯ กว่า 300 ล้านบาท ติดตั้งระบบอัตโนมัติ ควบคุมผ่านเข้า-ออกประตูและจัดเก็บค่ายานพาหนะผ่านท่า
สถาบันนวัตกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ คณะวิศวกรรมศาสตร์ ได้รับความไว้วางใจจากการท่าเรือแห่งประเทศไทย หน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงคมนาคม ให้ดำเนินโครงการวิจัยและติดตั้งระบบควบคุมการผ่านเข้า-ออกประตูตรวจสอบอัตโนมัติ (e-Gate) ของท่าเรือกรุงเทพ คลองเตย และงานติดตั้งระบบจัดเก็บค่ายานพาหนะผ่านท่า (e-Toll Collection system) ของท่าเรือแหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ด้วยงบประมาณทั้งสิ้น 315,000,000 บาท (สามร้อยสิบห้าล้านบาทถ้วน) ในระยะเวลาตั้งแต่ 29 สิงหาคม 2551 – 28 ตุลาคม 2552 โดยมี ผศ.ดร.สมนึก คีรีโต ผู้อำนวยการสถาบันนวัตกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ ลงนามในบันทึกความร่วมมือกับ นางสุนิดา สกุลรัตนะ ผู้อำนวยการท่าเรือแห่งประเทศไทย และ อ.นนทวัฒน์ จันทร์เจริญ คณบดี ร่วมเป็นสักขีพยาน เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2551 ในพิธีที่จัดขึ้น ณ ห้องประชุมใหญ่ อาคารการท่าเรือแห่งประเทศไทย
ผศ.ดร.สมนึกฯ ในฐานะหัวหน้าโครงการ กล่าวว่า “งานวิจัยและติดตั้งระบบที่ท่าเรือกรุงเทพและท่าเรือแหลมฉบัง เป็นระบบควบคุมการผ่านเข้า-ออกประตูตรวจสอบโดยอัตโนมัติ โดยอาศัยเทคโนโลยี RFID (Radio Frequency Identification) ระบบประมวลผลภาพ (Image Processing) ระบบอ่านหมายเลขตู้คอนเทนเนอร์อัตโนมัติ (Optical Character Recognition) ระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV-Closed Circuit Television System) ระบบเสียงผ่านอินเทอร์เน็ต (VoIP-Voice over Internet Protocol) และระบบตรวจสอบลักษณะของรถบรรทุก โดยทำงานประสานกับระบบตรวจสอบผู้ขับขี่รถบรรทุก ตรวจสอบลักษณะยานพาหนะ และตรวจสอบตู้สินค้า เพื่อควบคุมการผ่านเข้า-ออกได้โดยอัตโนมัติ และยังสามารถควบคุมการทำงานได้จากระยะไกลอีกด้วย โดยระบบดังกล่าวจะถูกนำไปติดตั้งในช่องทางเดินรถเข้า-ออกท่าเรือทั้งสองแห่งมากกว่า 64 ช่องทางใน 10 สถานีตรวจสอบ เพื่อควบคุมการผ่านเข้า-ออกของยานพาหนะทุกประเภท โดยอัตโนมัติและไม่จำเป็นต้องมีเจ้าหน้าที่ประจำในแต่ละช่องทางอีกต่อไป
สถาบันนวัตกรรมฯ มีความมุ่งมั่นที่จะทำโครงการนี้ให้ประสบผลสำเร็จ เพื่อให้ท่าเรือกรุงเทพและท่าเรือแหลมฉบังเป็นท่าเรืออัตโนมัติ (Electronics Port: e-Port) มีความทันสมัยและอำนวยความสะดวกกับผู้ใช้บริการมากขึ้น พร้อมทั้งรองรับการรักษาความปลอดภัยของท่าเรือและการเดินเรือระหว่างประเทศตามมาตรฐานสากลอีกด้วย”
นอกเหนือจากสถาบันนวัตกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศซึ่งเป็นหน่วยงานหลักแล้ว การดำเนินการยังมีคณาจารย์ ทีมนักวิจัยและนักพัฒนาระบบผู้มีความเชี่ยวชาญในหลากหลายสาขา ทั้งด้านวิศวกรรมโยธา สถาปัตยกรรม เทคโนโลยีสารสนเทศ วิศวกรรมซอฟต์แวร์ วิศวกรรมเครือข่ายคอมพิวเตอร์ วิศวกรรมไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ และด้านการบริหารโครงการ ที่มีประสบการณ์และผลงานวิจัยอย่างต่อเนื่องในเรื่องที่เกี่ยวข้องมามากกว่า 10 ปีร่วมงานในครั้งนี้ด้วย