ENG KU NEWS

วันพุธที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2566
ข่าวล่าสุด :
คณะวิศวฯ จัดกิจกรรม Kick Off AIoT InnoWorks Thailand 2025คณะวิศวฯ นำนิสิต ศึกษาดูงาน ณ บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน)คณะวิศวฯ ร่วมกับบริษัท เซินเจิ้น ดูบอท ครอป จำกัด สาธารณรัฐประชาชนจีน ร่วมมือทางวิชาการ วิจัย พัฒนาหุ่นยนต์คณาจารย์คณะวิศวฯ ร่วมเป็นกรรมการตัดสินรอบชิงชนะเลิศ การประกวดนวัตกรรมด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม กฟผ.คณะวิศวฯ จัดเสวนาวิชาการ i-Forum ครั้งที่ 10 Green Finance, ESG และ Carbon footprint จุดเปลี่ยนเพื่ออนาคตประเทศไทยคณะครู-นักเรียน โรงเรียนนวมิทราชินูทิศ หอวัง นนทบุรี เยี่ยมชมคณะวิศวฯคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ร่วมกับบริษัท SKF (ประเทศไทย) จำกัด จัดงานเสวนาพิเศษ และพิธีลงนาม บันทึกความร่วมมือ (MOU)คณะวิศวฯ มก. จัดอบรม “เทคนิคการยกร่าง เสริมสร้างจริยธรรมด้านทรัพย์สินทางปัญญา”คณะวิศวฯ ร่วมงาน สืบสาน วันสืบ นาคะเสถียร ประจำปี 2568คณะวิศวฯ ม.เกษตรศาสตร์ จัดพิธีลงนามความร่วมมือกับมูลนิธิซีบีเอ เสริมสร้างศักยภาพนิสิต ภายใต้โครงการ WISE

นิสิตวิศวฯ โชว์ผลงานจักรยานไฟฟ้า Hubless eBike Mark II คว้ารางวัลรองชนะเลิศ Brand’s GEN 6

นายภูเบศ จันทรังษี บัณฑิตจากโครงการเปิดสอนหลักสูตรระดับปริญญาตรีนานาชาติ (IUP) สาขาวิชาวิศวกรรมไฟฟ้าเครื่องกลการผลิต คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.)  ได้คิด ออกแบบ และลงมือดัดแปลงรถจักรยานธรรมดาให้เป็นรถจักรยานไฟฟ้า ในผลงานชื่อ Hubless eBike Mark II เอาชนะใจกรรมการจนสามารถคว้ารางวัลรองชนะเลิศ ต้นแบบนวัตกรรมแห่งอนาคต Innovation Award in Science จากการแข่งขัน Brand’s Gen6 ฉลาดคิด ไร้ขีดจำกัด จัดขึ้นเมื่อวันที่ 14 กันยายน 2556 ณ ห้างสรรพสินค้า สยามดิสคัฟเวอรี่ โดยบริษัท เซเรบอส (ประเทศไทย) จำกัด

หลังจากที่ประสบความสำเร็จในการ ประดิษฐ์จักรยาน Hubless eBike รุ่นแรก และได้รับความสนใจจากผู้พบเห็น ทำให้ภูเบศคิดที่จะพัฒนาผลงานของตนให้ดีขึ้น จนกระทั่งได้มีโอกาสเข้าร่วมการประกวดนวัตกรรมในโครงการ Brand’s Gen ปีที่ 6 จึงได้ปรับปรุงจักรยานไฟฟ้าอย่างจริงจัง เพื่อให้มีสมรรถนะที่ดีขึ้นพร้อมเข้าประกวด และได้พัฒนาผลงานเป็น Hubless eBike Mark II ขึ้น

ภูเบศ กล่าวว่า “ในรุ่น Mark II นี้ ได้ปรับปรุงจากรุ่นแรก คือ พัฒนาโครงสร้างให้ถอดประกอบชิ้นส่วน และซ่อมบำรุงได้สะดวกยิ่งขึ้น เปลี่ยนวัสดุให้มีน้ำหนักเบาขึ้นโดยเลือกใช้วัสดุอลูมินัมอัลลอยเป็นโครง สร้างส่วนใหญ่ และใช้มอเตอร์ที่มีขนาดเบาและเล็กลงแต่มีรอบต่ำและแรงบิดสูง อีกทั้งยังเปลี่ยนชนิดแบตเตอรี่เป็นแบตเตอรี่ชนิดลีเธี่ยม-โพลิเมอร์ เพื่อให้น้ำหนักเบายิ่งขึ้น

ในส่วนของวงล้อ ได้พัฒนาให้สามารถแบกรับอุปกรณ์ที่ใช้ในการขับเคลื่.อนทั้งหมด คือ มอเตอร์ แบตเตอรี่ และชุดควบคุมให้อยู่ภายในวงล้อเดียว ทำให้จักรยานรุ่น MarkII นั้น น้ำหนักโดยรวมแล้วลดลงไปกว่า 10 กิโลกรัมเมื่อเทียบกับรุ่นแรก ซึ่งวงล้อชนิดนี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้หรือประกอบเข้ากับยานพาหนะชนิดอื่น ที่ต้องการเปลี่ยนจากล้อธรรมดา เป็นล้อที่ใช้ติดตั้งอุปกรณ์การขับเคลื่อนเพื่อประหยัดพื้นที่ เมื่อเทียบกับมอเตอร์ชนิด Hub Motor ที่มีขายอยู่ทั่วไปแล้ว แบบเดิมยังต้องอาศัยพื้นที่ส่วนอื่นๆของยานพาหนะในการติดตั้งอุปกรณ์อยู่ ดังนั้น ล้อของรุ่นสองนี้จึงช่วยลดพื้นที่ใช้สอยเพื่อความคล่องตัวได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ รูปลักษณ์การออกแบบของวงล้อทำให้ดูทันสมัยแตกต่างจากวงล้อระบบเดิมด้วย

การชาร์จไฟในแต่ละครั้งพบว่า แบตเตอรี่ที่ใช้ ซึ่งมีขนาด 10Ah 37 โวลต์นั้น มีค่าประมาณ 0.5 หน่วย คิดเป็นเงินประมาณ 1.5-2 บาทต่อการชาร์จไฟหนึ่งครั้ง การใช้จักรยานไฟฟ้าจึงเท่ากับเป็นการช่วยให้การเดินทางประหยัดลงไปได้มากเมื่อเทียบกับการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล และยังทำให้มลภาวะของสิ่งแวดล้อมเป็นศูนย์อีกด้วย

 ด้วยทุนสนับสนุนของโครงการ เปิดสอนหลักสูตรปริญญาตรีนานาชาติ(IUP) ภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล คณะวิศวกรรมศาสตร์ มก. และภาคเอกชน ได้แก่ บริษัท P.N.T Mold Limited Partnership ผู้ให้การสนับสนุนผลิตชิ้นส่วนของกลไกในการขับเคลื่อน และบริษัท JKC Bike Industrial ผู้ให้การสนับสนุนการผลิตตัวถังจักรยานและตะเกียบ ทำให้ Hubless eBike Mark II สามารถจะต่อยอดและพัฒนารุ่นต่อๆไปได้อีก และในอนาคตคาดว่าจะสามารถผลิตในจำนวนมากขึ้นเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการได้”

แสดงความคิดเห็น

เกี่ยวกับเรา

ข่าวล่าสุด

ติดตามเราได้ที่