ENG KU NEWS

วันศุกร์ที่ 03 พฤษภาคม พ.ศ. 2566
ข่าวล่าสุด :
นิสิตวิศวฯ เครื่องกล-วิศวฯ วัสดุ คว้ารางวัลชนะเลิศ แผนรณรงค์ สร้างความปลอดภัยบนท้องถนนในสถานศึกษา Toyota Campus Challenge 2023วิศวฯ ม.เกษตรศาสตร์ จับมือ อัลเตอร์วิม ร่วมวิจัย-พัฒนาขีดความสามารถเชิงธุรกิจ ด้านพลังงานหมุนเวียนและระบบกักเก็บพลังงานคณะวิศวฯ ร่วมงานวันคล้ายวันสถาปนาคณะวนศาสตร์ มก. ครบรอบ 88 ปีอาจารย์คณะวิศวฯ-คณะวิทยาศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ นำเสนอผลงานในการประชุม Sino-Thai Symposium on Energy and New Materialsผู้บริหาร-อาจารย์คณะ หารือความร่วมมือด้านวิจัย-วิชาการ กับ Tamkang University, Taiwanผู้บริหาร-อาจารย์ คณะวิศวฯ หารือความร่วมมือด้านการวิจัยและวิชาการ ณ National Tsing Hua University (NTHU) ไต้หวันผู้บริหาร-อาจารย์ คณะวิศวฯ หารือความร่วมมือด้านการวิจัยและวิชาการ กับ Tunghai University ไต้หวันร่วมหารือความร่วมมือด้านการวิจัยและวิชาการ กับ MCUT ไต้หวัน  ผู้บริหาร-อาจารย์ คณะวิศวฯ ร่วมหารือความร่วมมือด้านการวิจัยและวิชาการกับผู้บริหาร Yuan Ze University, Taiwanอาจารย์คณะได้รับอนุมัติให้ดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์ได้รับเงินประจำตำแหน่งสูงขึ้น (ศ.11)

นิสิตวิศวฯ โชว์ผลงานจักรยานไฟฟ้า Hubless eBike Mark II คว้ารางวัลรองชนะเลิศ Brand’s GEN 6

นายภูเบศ จันทรังษี บัณฑิตจากโครงการเปิดสอนหลักสูตรระดับปริญญาตรีนานาชาติ (IUP) สาขาวิชาวิศวกรรมไฟฟ้าเครื่องกลการผลิต คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.)  ได้คิด ออกแบบ และลงมือดัดแปลงรถจักรยานธรรมดาให้เป็นรถจักรยานไฟฟ้า ในผลงานชื่อ Hubless eBike Mark II เอาชนะใจกรรมการจนสามารถคว้ารางวัลรองชนะเลิศ ต้นแบบนวัตกรรมแห่งอนาคต Innovation Award in Science จากการแข่งขัน Brand’s Gen6 ฉลาดคิด ไร้ขีดจำกัด จัดขึ้นเมื่อวันที่ 14 กันยายน 2556 ณ ห้างสรรพสินค้า สยามดิสคัฟเวอรี่ โดยบริษัท เซเรบอส (ประเทศไทย) จำกัด

หลังจากที่ประสบความสำเร็จในการ ประดิษฐ์จักรยาน Hubless eBike รุ่นแรก และได้รับความสนใจจากผู้พบเห็น ทำให้ภูเบศคิดที่จะพัฒนาผลงานของตนให้ดีขึ้น จนกระทั่งได้มีโอกาสเข้าร่วมการประกวดนวัตกรรมในโครงการ Brand’s Gen ปีที่ 6 จึงได้ปรับปรุงจักรยานไฟฟ้าอย่างจริงจัง เพื่อให้มีสมรรถนะที่ดีขึ้นพร้อมเข้าประกวด และได้พัฒนาผลงานเป็น Hubless eBike Mark II ขึ้น

ภูเบศ กล่าวว่า “ในรุ่น Mark II นี้ ได้ปรับปรุงจากรุ่นแรก คือ พัฒนาโครงสร้างให้ถอดประกอบชิ้นส่วน และซ่อมบำรุงได้สะดวกยิ่งขึ้น เปลี่ยนวัสดุให้มีน้ำหนักเบาขึ้นโดยเลือกใช้วัสดุอลูมินัมอัลลอยเป็นโครง สร้างส่วนใหญ่ และใช้มอเตอร์ที่มีขนาดเบาและเล็กลงแต่มีรอบต่ำและแรงบิดสูง อีกทั้งยังเปลี่ยนชนิดแบตเตอรี่เป็นแบตเตอรี่ชนิดลีเธี่ยม-โพลิเมอร์ เพื่อให้น้ำหนักเบายิ่งขึ้น

ในส่วนของวงล้อ ได้พัฒนาให้สามารถแบกรับอุปกรณ์ที่ใช้ในการขับเคลื่.อนทั้งหมด คือ มอเตอร์ แบตเตอรี่ และชุดควบคุมให้อยู่ภายในวงล้อเดียว ทำให้จักรยานรุ่น MarkII นั้น น้ำหนักโดยรวมแล้วลดลงไปกว่า 10 กิโลกรัมเมื่อเทียบกับรุ่นแรก ซึ่งวงล้อชนิดนี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้หรือประกอบเข้ากับยานพาหนะชนิดอื่น ที่ต้องการเปลี่ยนจากล้อธรรมดา เป็นล้อที่ใช้ติดตั้งอุปกรณ์การขับเคลื่อนเพื่อประหยัดพื้นที่ เมื่อเทียบกับมอเตอร์ชนิด Hub Motor ที่มีขายอยู่ทั่วไปแล้ว แบบเดิมยังต้องอาศัยพื้นที่ส่วนอื่นๆของยานพาหนะในการติดตั้งอุปกรณ์อยู่ ดังนั้น ล้อของรุ่นสองนี้จึงช่วยลดพื้นที่ใช้สอยเพื่อความคล่องตัวได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ รูปลักษณ์การออกแบบของวงล้อทำให้ดูทันสมัยแตกต่างจากวงล้อระบบเดิมด้วย

การชาร์จไฟในแต่ละครั้งพบว่า แบตเตอรี่ที่ใช้ ซึ่งมีขนาด 10Ah 37 โวลต์นั้น มีค่าประมาณ 0.5 หน่วย คิดเป็นเงินประมาณ 1.5-2 บาทต่อการชาร์จไฟหนึ่งครั้ง การใช้จักรยานไฟฟ้าจึงเท่ากับเป็นการช่วยให้การเดินทางประหยัดลงไปได้มากเมื่อเทียบกับการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล และยังทำให้มลภาวะของสิ่งแวดล้อมเป็นศูนย์อีกด้วย

 ด้วยทุนสนับสนุนของโครงการ เปิดสอนหลักสูตรปริญญาตรีนานาชาติ(IUP) ภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล คณะวิศวกรรมศาสตร์ มก. และภาคเอกชน ได้แก่ บริษัท P.N.T Mold Limited Partnership ผู้ให้การสนับสนุนผลิตชิ้นส่วนของกลไกในการขับเคลื่อน และบริษัท JKC Bike Industrial ผู้ให้การสนับสนุนการผลิตตัวถังจักรยานและตะเกียบ ทำให้ Hubless eBike Mark II สามารถจะต่อยอดและพัฒนารุ่นต่อๆไปได้อีก และในอนาคตคาดว่าจะสามารถผลิตในจำนวนมากขึ้นเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการได้”

แสดงความคิดเห็น

เกี่ยวกับเรา

ข่าวล่าสุด

ติดตามเราได้ที่