ENG KU NEWS

วันจันทร์ที่ 06 ตุลาคม พ.ศ. 2566
ข่าวล่าสุด :
คณะวิศวฯ – คณะสังคมศาสตร์ คณะเทคนิคการสัตวแพทย์ มก. ร่วมจัด Workshop ครั้งที่ 2 KU Innovation Contest ครั้งที่ 5คณะวิศวกรรมศาสตร์ ร่วมงานนนทรีสีทองคณะวิศวฯ จัดงาน ดงตาลผูกพัน สายสัมพันธ์วันเกษียณ ประจำปี 2568คณะวิศวฯ ร่วมงานสถาปนาสำนักบริหารการศึกษา มก. ครบรอบปีที่ 33นิสิตวิศวกรรมไฟฟ้า ร่วมกิจกรรม เยี่ยมชมรัฐสภา 360 องศา เรียนรู้ระบบงานรัฐสภา กับประธานคณะ กมธ.Dongtaan Racing ทีมนิสิตจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ คว้ารางวัลใหญ่บนเวที Formula Student ระดับโลกที่ญี่ปุ่นคณะวิศวฯ จัดกิจกรรม Kick Off AIoT InnoWorks Thailand 2025คณะวิศวฯ นำนิสิต ศึกษาดูงาน ณ บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน)คณะวิศวฯ ร่วมกับบริษัท เซินเจิ้น ดูบอท ครอป จำกัด สาธารณรัฐประชาชนจีน ร่วมมือทางวิชาการ วิจัย พัฒนาหุ่นยนต์คณาจารย์คณะวิศวฯ ร่วมเป็นกรรมการตัดสินรอบชิงชนะเลิศ การประกวดนวัตกรรมด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม กฟผ.

วิศวฯ มก.ร่วมพัฒนาต่อยอด เรือกู้ภัยสะเทินน้ำ สะเทินบก ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม

คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ร่วมกับ มูลนิธิเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย พัฒนาต่อยอดเรือสะเทินน้ำสะเทินบก ในโครงการวิจัยและพัฒนาเรือกู้ภัยสะเทินน้ำสะเทินบก ให้มีความสามารถในการใช้งานช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยได้ดียิ่งขึ้น ด้วยความสามารถในการเป็นเรือ 70% และเป็นรถ 30% ในพาหนะที่รวมกันเป็นหนึ่งเดียว วิ่งได้ทั้งทางบกและในน้ำ ขับขี่ง่ายเหมือนรถยนต์ น้ำหนักเบา ทดแทนการขนส่งเครื่องอุปโภคบริโภคช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยด้วยรถยนต์ที่ไม่สามารถเข้าถึงพื้นที่น้ำท่วมระดับสูงได้ และแก้ปัญหาความไม่สะดวกจากการขนส่งทางเรือที่ไม่สามารถเกยตื้นในพื้นที่น้ำท่วมระดับต่ำหรือข้ามถนนสะพานได้

คณะทำงาน ประกอบด้วย รองศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์พิชิต สุวรรณประกร รองประธานมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก และทีมผู้วิจัยและประดิษฐ์เรือสะเทินน้ำสะเทินบกจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) คือ อาจารย์ปัญญา เหล่าอนันต์ธนา อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า  นายธนัตถ์ ศรีสุขสันต์ นักวิจัย และนิสิตภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล

อาจารย์ปัญญา กล่าวว่า”เมื่อปี พ.ศ.2554 พื้นที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ประสบปัญหาอุทกภัย ทางทีมนักวิจัยและประดิษฐ์เรือสะเทินน้ำสะเทินบก จึงคิดดัดแปลงชุดเรือหางสั้นสะเทินน้ำสะเทินบก KU –Amphibian ตัวต้นแบบที่มีรูปแบบเรียบง่ายและมีประสิทธิภาพขึ้น โดยสามารถขับเคลื่อนทั้งทางบกและในน้ำได้ เพื่อปฏิบัติภารกิจขนส่งเครื่องอุปโภค บริโภคแจกจ่ายช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในบริเวณมหาวิทยาลัยและบริเวณโดยรอบ และเนื่องจากเป็นเรือที่สร้างขึ้นอย่างฉุกเฉินเพื่อรับมือกับสถานการณ์อุทกภัยในขณะนั้น จึงเกิดความไม่สมบูรณ์แบบในหลายจุด เช่น เรือมีขาดเล็กเกินไป ความเร็วที่ใช้วิ่งบนบกยังต่ำเกินไป และมีเสียงดังขณะวิ่ง ตำแหน่งที่นั่งขับไม่มีความสะดวก ตลอดจนเรือมีน้ำหนักมาก เป็นต้น ด้วยเหตุนี้ จึงคิดพัฒนาต่อยอดให้เรือมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นโดยได้รับความร่วมมือกับมูลนิธิเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย พัฒนาเป็นเรือกู้ภัยสะเทินน้ำสะเทินบกขึ้น”

คุณลักษณะของเรือกู้ภัยสะเทินน้ำสะเทินบก น้ำหนักตัวเรือประมาณ 350-450 กิโลกรัม สามารถบรรทุกน้ำหนักได้ถึง 450-550 กิโลกรัม หรือผู้โดยสารประมาณ 7-8 คน ความเร็วสูงสุดบนบกและในน้ำ คือ 50 และ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยมีความสิ้นเปลืองการใช้พลังงานเมื่อวิ่งบนบกได้ 18 กิโลเมตรต่อน้ำมัน 1 ลิตร และวิ่งในน้ำได้ 6 กิโลเมตรต่อน้ำมัน 1 ลิตร ขนาดเครื่องยนต์ เครื่องจักรยานยนต์เบนซิน 250 cc.  4 จังหวะ 14 แรงม้า มีล้อรถ 3 ล้อขนาดยาง 22 นิ้ว ขับเคลื่อนด้วยล้อหลัง 1 ล้อ และมีระบบเกียร์ที่สามารถส่งกำลังเลือกไปที่ล้อหรือไปที่หางของเรือได้ ส่วน 2 ล้อหน้าสามารถพับเก็บล้อได้เพื่อจะได้ไม่ต้านทานน้ำเวลาขับเคลื่อนในน้ำลึกและสามารถต้านทานกระแสน้ำหรือคลื่นน้ำขนาดใหญ่ที่มีผลต่อการพลิกคว่ำลำเรือได้โดยการกาง 2 ล้อหน้าลงในน้ำเพื่อถ่วงลำเรือไม่ให้พลิกคว่ำได้ ส่วนการใช้เชื้อเพลิงจะเป็นน้ำมันเบนซินโดยถังน้ำมันสามารถจุน้ำมันได้ 20 ลิตร และมีอุปกรณ์เสริม คือ หลังคาผ้าใบและรอกไฟฟ้าช่วยดึงหน้าลำเรือ

นายธนัตถ์ กล่าวเสริมว่า “ในการพัฒนาเรือกู้ภัยฯ ลำนี้ ใช้เวลาประมาณ 1 เดือน โดยจุดเด่นของเรือกู้ภัยสะเทินน้ำสะเทินบกที่พัฒนาขึ้น คือ สามารถเคลื่อนที่ไปได้ในทุกสภาวะตั้งแต่ถนนแห้งไปจนถึงแม่น้ำลึก มีสมรรถนะสูงทั้งการวิ่งบนบกและในน้ำ ด้วยการออกแบบตามหลักวิศวกรรม รูปแบบเรียบง่าย ประสิทธิภาพสูง ประหยัดน้ำมัน แข็งแรง ทนทาน ปลอดภัย น้ำหนักเบา และราคาเหมาะสม รวมทั้งให้มีความสามารถในการเป็นเรือ 70% และเป็นรถ 30% เสมือนเป็นเรือหางยาวและรถสามล้อติดเครื่องขนาดใหญ่ในคันเดียวกัน สามารถใช้อะไหล่จากรถยนต์หรือรถมอเตอร์ไซด์ได้ ซึ่งสามารถหาซื้อได้โดยทั่วไป ราคาไม่แพง ทำให้ผู้ใช้งานสามารถบำรุงรักษาด้วยตนเองได้โดยง่าย และอู่ซ่อมรถตามต่างจังหวัดสามารถซ่อมได้อย่างง่ายดาย”

แสดงความคิดเห็น

เกี่ยวกับเรา

ข่าวล่าสุด

ติดตามเราได้ที่